10 ลักษณะของเซลที่ลูกค้ารำคาญ ห้ามทำเด็ดขาด!
10 สิ่งที่พนักงานขายมักทำซึ่งลูกค้าเกลียดอย่างที่สุด และวิธีที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการขายของคุณ
Pie Piraya
Product Marketer

10 ลักษณะของเซลที่ลูกค้ารำคาญ ห้ามทำเด็ดขาด!

ในฐานะพนักงานขาย เป้าหมายสูงสุดของคุณคือการสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้าและสร้างความเชื่อใจ อย่างไรก็ตาม มีพฤติกรรมบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนการขายที่อาจเกิดขึ้นให้กลายเป็นโอกาสที่สูญเปล่าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยคุณในการนำทางโลกแห่งการขายที่ซับซ้อน ต่อไปนี้คือ 10 สิ่งที่พนักงานขายมักทำซึ่งลูกค้าเกลียดอย่างที่สุด และวิธีที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการขายของคุณ ช่วยให้ประสบการณ์ลูกค้าโดยรวม (Customer Experience) ดีขึ้น

  1. การเร่งรัดมากเกินไป
    ปกติแล้วลูกค้ามักชื่นชมความกระตือรือร้นของพนักงาน แต่การเร่งรัดลูกค้ามากเกินไปอาจทำให้เกิดการอึดอัด และทำให้ลูกค้ารู้สึกปฏิเสธแทนได้ แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์และทำความเข้าใจความต้องการของพวกเขาก่อนที่จะเสนอขาย
  2. ไม่รับฟังลูกค้า
    หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่พนักงานขายทำคือไม่รับฟังลูกค้า สักแต่จะขายอย่างเดียว  ทั้งที่จริงๆ คือควรใช้เวลาทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการและความกังวลของพวกเขา หลายครั้งที่พนักงานอาจจะ upsell ได้หากรับฟังลูกค้าเพิ่มเติม หรือนำเสนอ solution อื่นในการขายให้ลูกค้าได้เพิ่มด้วย
  3. รับปากสัญญาเกินจริง
    จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดึงดูดใจที่พนักงานขายสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปิดดีลเคสลูกค้าให้ได้ แต่การสัญญาเกินจริงอาจนำไปสู่ความผิดหวังต่อลูกค้าในภายหลัง ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่เชื่อใจ ไม่ซื้อซ้ำ และไม่แนะนำต่อให้เพื่อนฝุง  แนะนำให้ซื่อสัตย์กับสิ่งที่บริษัทสามารถมอบให้ลูกค้าได้มากกว่า
  4. ขาดความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
    ลูกค้าคาดหวังให้พนักงานขายเป็นผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พวกเขากำลังขาย ดังนั้นบริษัทและเจ้าของธุรกิจควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานขายรู้จักสินค้าและบริการของตัวเองอย่างถ่องแท้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และมีมาตรฐานเดียวกันในการให้ข้อมูลลูกค้าตามที่บริษัทตั้งเอาไว้ หากเป็นพนักงานขายใหม่ก็ควรผ่านการเทรนเรื่องคุณสมบัตรของสินค้าและบริการก่อนที่จะปล่อยให้ออกไปขายลูกค้าจริงๆ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
  5. ไม่ติดตามเคสลูกค้าว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
    การติดตามเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป การกระตือรือร้นและมีส่วนร่วม และดำเนินการตามคำสัญญาของคุณเสมอในทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งตรงเวลาหรือให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าพนักงานขายสามารถพึ่งพาได้และทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
  6. ตอบช้า
    ไม่มีอะไรที่ทำให้ลูกค้าหงุดหงิดไปมากกว่าพนักงานขายที่ใช้เวลานานในการตอบคำถามของพวกเขา เพราะการตอบลูกค้าช้าเพียงหนึ่งนาที อาจทำให้ลูกค้าเลือกที่จะไปทักสอบถามแบรนด์คู่แข่งได้ทันที วิธีแก้เบื้องต้นคือหากลูกค้าสื่อสารผ่านช่องทางแชท ควรมีการตั้งค่าแชทบอทไว้เสมอในเวลาที่แอดมินหรือพนักงานนั้นหยุดเบรกทำงานชั่วคราว ให้ลูกค้ารู้สึกวางใจว่าเดี๋ยวจะมีพนักงานเข้ามาดูแลแน่นอน
  7. ไม่แก้ไขข้อกังวล
    หากลูกค้าแสดงความกังวลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ควรจัดการกับความกังวลนี้โดยตรงแทนที่จะปัดเคสออก ควรฟีดแบคปัญหาของพวกเขากลับไปที่ฝั่ง customer support พร้อมทำงานร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไข เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วสิ่งที่ควรทำที่สุดคือแจ้งกลับไปยังลูกค้าถึงผลลัพท์ ในหลาย ๆ ครั้ง พนักขายอาจจะช่วยอะไรได้ไม่มากนักหากเคสปัญหานั้นต้องถูกแก้โดยสำนักงานใหญ่หรือผ่านหลายฝ่าย แต่ถ้าลูกค้าเห็นถึงความพยายามในการช่วยแก้ปัญหา ลูกค้าย่อมรู้สึกดีกว่าตัวเองได้รับการดูแลที่เต็มเปี่ยม
  8. เน้นแต่ขาย ไม่เน้นสร้างความประทับใจ
    เพราะการขายเป็นมากกว่าแค่การปิดการขาย อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เพราะการใช้เวลาในการหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์กับลูกค้าของคุณให้ยั่งยืนหลังจากการขายครั้งแรกนั้นเสีย Cost มากกว่ากว่าที่คุณคิดไว้ ตามที่สถิติบอกไว้ว่า ลูกค้าเก่ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าและบริการมากกว่าลูกค้าใหม่ถึง 66% เลยทีเดียว
  9. ไม่ซื่อสัตย์
    ความไว้วางใจเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จงซื่อสัตย์และโปร่งใสกับลูกค้าของคุณเสมอ แม้ว่าจะหมายถึงการยอมรับความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องก็ตาม จะเห็นได้จากหลายเคสที่มีลูกค้าออกมารีวิวแบรนด์ว่าตัวเองได้รับการดูแลที่ดีจากแบรนด์นี้ ถึงจะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่ก็พร้อมที่จะเป็นลูกค้าต่อไปเพราะมีกระบวนการ Customer support ที่ดี
  10. ไม่มีวาทะศิลป์ พูดจ้อมากเกินไป
    หลายครั้งที่พนักงานขายทำตัวเป็นกันเองเกินไป พูดจ้อไม่หยุด หรือใช้สรรพนามแทนตัวเองไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ขายสินค้า luxury ให้ลูกค้ากำลังซื้อสูง หรือสถานภาพสังคมสูง แต่เรียกลูกค้าว่า ตัวเอง เธอ เห็นได้จากหลายเคสที่คนขายอาจจะยังขาดประสบการณ์ ยังเป็น เด็ก อยากสร้างความสนิทสนมกับลูกค้าแต่ไม่ถูกกาลเทศะ ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะคุยด้วย ยิ่งหลายดีลการค้า หากเป็นบริการที่ราคาแพง ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ พนักงานที่พูดจาได้มืออาชีพ พูดเพราะ รู้จังหวะและเวลา จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะคุยต่อด้วย

โดยสรุปแล้ว การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่การให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและเพิ่มยอดขายของคุณได้ ต้องจดจำไว้เสมอว่าลูกค้าที่มีความสุขมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้าประจำและแนะนำผู้อื่นให้กับธุรกิจของคุณ ดังนั้น ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของพวกเขาในทุกขั้นตอนของกระบวนการขาย

หรือหากธุรกิจของคุณยังขาดระบบหลังบ้านที่ช่วยให้การขายและบริการลูกค้าเป็นเรื่องง่าย  เราขอแนะนำ Oho Chat เป็นทั้งโปรแกรมการขายและจัดการแชทในที่เดียว

Oho Chat: ระบบจัดการแชทบริการลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพทีมแอดมิน ครบ จบในที่เดียว เรามีฟีเจอร์มากมายที่ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคดิจิทัล

สามารถทดลองใช้ Oho Chat ได้ฟรีนานถึง 14 วัน หรือหากสนใจใช้งานจริง แพ็คเกจราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 500 บาท/เดือนเท่านั้น แค่คลิกเดียว แล้วยกระดับธุรกิจไปพร้อมกับเรา

อ่านเพิ่มเติม

- How to ตอบแชทให้เร็วขึ้น สำหรับธุรกิจที่ปิดการขายผ่านแชท

-
10 ตัวย่อคำศัพท์ที่ชาวทีมขายต้องรู้

-5 สกิลที่ Customer Service ควรมี

พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!