BCG Matrix หรือ Boston Consulting Group Matrix คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจที่บริษัทมักจะนำไปใช้ในการวิเคราะห์กลยุทธ์ในการวางตำแหน่งและจัดลำดับความสำคัญศักยภาพหรือ Porfolio ของสินค้าหรือบริการ โดยมีการใช้ 2 เกณฑ์ประกอบการพิจารณาคือ
แต่ก่อนเราจะไปเริ่มการประยุกต์ใช้ BCG Matrix ใน Digital Marketing เรามาทำความรู้จัก 4 กลุ่มที่เป็นองค์ประกอบหลักของ BCG Matrix กันก่อนดีกว่า ซึ่งมีดังนี้
ดาว ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดสูง “ (High Market Share) และ อัตราการเติบโตสูงเช่นกัน (High Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ การแข่งขันสูงมากๆ “ ซึ่งทำให้ตลาดนี้มีจำนวนผู้เล่นอยู่มากและยากในการที่จะทำให้สินค้าของตัวเองนั้นประสบความสำเร็จ
ตัวอย่าง
Stars X iPhone
ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)
Stars X Digital Marketing
วัวนม ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดสูง “ (High Market Share) แต่มีอัตราการเติบโตต่ำ (Low Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะ “ ไม่ต้องเผชิญ “ กับการแข่งขันที่สูงมากนัก เนื่องจากเป็นสินค้าที่ทำกำไรให้บริษัทอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้มี “ อัตราการเติบโตต่ำ “ ซึ่งทำให้บริษัทนั้นไม่ต้องลงทุนมากมายนัก เนื่องจากสถานภาพของตัวสินค้านั้นค่อนข้างมีความมั่นคงอยู่แล้ว เปรียบดังโคนมโตเต็มวัยที่ให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องแต่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ “ ต่ำ ” แล้วนั่นเอง
ตัวอย่าง
Cash Cows X iPad
ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)
Cash Cows X Digital Marketing
เครื่องหมายคำถาม ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดต่ำ “ (Low Market Share) แต่มีอัตราการเติบโตสูง (High Growth) ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ อุปสรรคอันมากมาย “ เนื่องจากว่ามีคู่แข่งยักษ์ใหญ่ในตลาดอีกมาก อย่างไรก็ตามสินค้าในหมวดหมู่นี้ก็ยังคงแสดงอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากได้รับการพัฒนาที่ถูกจุด
ตัวอย่าง
Question Marks X Airpods
ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)
Question Marks X Digital Marketing
สุนัข ถูกใช้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่มี “ ส่วนแบ่งตลาดต่ำ “ (Low Market Share) และ อัตราการเติบโตต่ำ (Low Growth) เช่นกัน ดังนั้นสินค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มักจะต้องเผชิญกับ “ ตลาดขาลง “ ที่มีความต้องการสินค้าต่ำ จึงทำให้สินค้านี้ถูกเรียกว่า Dogs ซึ่งต้องเจอกับการเติบโตที่ต่ำมากๆและอาจจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนอีกต่อไป
3 สิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการบริหารจัดการสินค้าหรือบริการในหมวดหมู่นี้ คือ
ตัวอย่าง
Dogs X iPod
ประเมินสถานการณ์ (Market & Product Analysis)
Dogs X Digital Marketing
การเติบโตและส่วนแบ่งการตลาดของทุกสินค้าและบริการนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการที่เราทำความเข้าใจกับ BCG Matrix และ ตัวแปรทั้ง 4 ที่เป็นองค์ประกอบของมันให้ดีนั้น ก็จะสามารถทำให้เราสามารถดึงศักยภาพของตัวสินค้าหรือบริการนั้นๆออกมาได้อย่างเต็มที่และถูกที่ถูกเวลาอีกด้วย
นอกจากนี้จากตัวอย่างที่เราได้ยกไปของ Apple จะเห็นได้ว่าการที่เราเข้าใจถึงสถานภาพของตลาดและอัตราการเติบโตของสินค้าและบริการของแต่ละตัว ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ธุรกิจต่างๆวางกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงดิจิตอล (Digital Marketing) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การประยุกต์ใช้ BCG Matrix ก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเชิงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) หรือ ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management) เป็นต้น
และหากพูดถึงระบบบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า (Customer Relationship Management) ตัวช่วยที่จะทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างตรงจุดและฉับพลันนั้นก็คือระบบหลังบ้านที่ช่วยดูแลความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้านั่นเอง ซึ่ง Oho Chat ก็เป็นระบบจัดการแชทบริการลูกค้า ที่รวบรวมทุกปัจจัยสำคัญไม่ว่าจะเป็นการรวมแชทลูกค้าไว้ในหน้าจอเดียว แชทบอท การรวมข้อมูลลูกค้า แดชบอร์ดและการจัดการติดตามเคส ไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ตรวจสอบวัดผการทำงานของ ทีมแอดมิน Sales และ Support เพื่อยกระดับ Customer Experience (CX) ทุกช่องทางให้ธุรกิจพร้อมก้าวสู่ยุค Marketing 5.0
โดยสรุปแล้ว BCG Matrix ไม่ใช่เครื่องมือในการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าโดยตรง อย่างไรก็ตามบริษัทและองค์กรต่างๆสามารถนำ BCG Matrix ไปประยุกต์ใช้กับการจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) และการสร้างกลยุทธ์ต่างๆเพื่อเป็นสิ่งที่จะเสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) ผ่านการบริโภคสินค้าและบริการที่ได้รับการวางกลุยุทธ์อย่างตรงจุดนั่นเอง
ทดลองใช้ Oho Chat ได้แล้ววันนี้ ฟรี 14 วัน สมัครง่าย ติดตั้งเชื่อมต่อกับ Facebook, LINE OA, Instagram ได้ไม่จำกัด