เพิ่ม Conversion Rate ด้วยกลยุทธ์ Customer Journey ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ พิชิตใจลูกค้าอยู่หมัด!
การประเมินผลการลงทุนของแคมเปญหรือกลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้นมีความสำคัญอย่างมาก หนึ่งในตัวชี้วัดที่ช่วยวัดความสำเร็จและความคุ้มค่าของการทำการตลาด
Ployeliz

เพิ่ม Conversion Rate ด้วยกลยุทธ์ Customer Journey ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ พิชิตใจลูกค้าอยู่หมัด!

ในโลกการตลาดดิจิทัล การประเมินผลการลงทุน (ROI) ของแคมเปญหรือกลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้นมีความสำคัญอย่างมาก หนึ่งในตัวชี้วัดที่ช่วยวัดความสำเร็จและความคุ้มค่าของการทำการตลาดได้อย่างชัดเจนคือ อัตราการ Conversion (Conversion Rate) ซึ่งไม่เพียงแค่บอกจำนวนผู้ที่ตอบสนองต่อแคมเปญของคุณ แต่ยังสะท้อนถึงการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ว่ามีประสิทธิภาพเพียงใด บทความนี้จะอธิบายว่า Conversion Rate ช่วยให้การทำการตลาดคุ้มค่าอย่างไร พร้อมการเชื่อมโยงกับ Customer Journey

Conversion Rate คืออะไร?

Conversion Rate คืออัตราส่วนของผู้เข้าชมที่ทำการกระทำที่ธุรกิจต้องการ (Conversion) ต่อจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด โดยการกระทำนั้นอาจเป็นการซื้อสินค้า สมัครรับข่าวสาร กรอกแบบฟอร์ม หรือติดตามในโซเชียลมีเดีย ค่า Conversion Rate จะถูกใช้เพื่อวัดว่ากลยุทธ์หรือแคมเปญการตลาดมีประสิทธิภาพแค่ไหนในการแปลงผู้เยี่ยมชมทั่วไปให้กลายเป็นลูกค้าจริง

สูตรการคำนวณ Conversion Rate

Conversion Rate=จำนวน Conversionจำนวนผู้เข้าชม×100

Conversion Rate=จำนวนผู้เข้าชมจำนวน Conversion×100

Customer Journey กับ Conversion Rate

Customer Journey คือการเดินทางของลูกค้า ตั้งแต่การรู้จักแบรนด์ครั้งแรกจนถึงการตัดสินใจซื้อหรือทำการกระทำที่เราต้องการ การเดินทางนี้มีหลายขั้นตอน ซึ่งการวัด Conversion Rate ในแต่ละขั้นตอนจะช่วยให้ธุรกิจเห็นภาพชัดเจนว่าลูกค้าอยู่ในขั้นไหนของเส้นทาง และสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตรงจุดมากขึ้น

Customer Journey แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่:

  1. Awareness (การรับรู้) ลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์ของคุณเป็นครั้งแรก เช่น ผ่านโฆษณาออนไลน์หรือการค้นหาข้อมูล
  2. Interest (ความสนใจ) ลูกค้าเริ่มสนใจสินค้า/บริการและทำการค้นคว้าเพิ่มเติม
  3. Consideration (การพิจารณา) ลูกค้าพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นหนึ่งในตัวเลือก
  4. Action (การกระทำ) ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือทำการสมัคร
  5. Loyalty (ความภักดี) ลูกค้ากลายเป็นลูกค้าประจำและอาจแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น

ความสัมพันธ์ระหว่าง Conversion Rate กับความคุ้มค่าในการทำการตลาด

การวัด Conversion Rate ช่วยให้ธุรกิจทราบว่าในแต่ละขั้นตอนของ Customer Journey มีผลลัพธ์เป็นอย่างไร ซึ่งการเข้าใจอัตราการ Conversion ที่ดีจะช่วยทำให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลายด้าน ดังนี้:

  1. ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้ตรงเป้าหมายมากขึ้น การวัด Conversion Rate ช่วยให้คุณรู้ว่าจุดใดใน Customer Journey ที่ลูกค้าเลิกสนใจหรือออกจากเส้นทาง เช่น หาก Conversion Rate ในขั้นตอน Interest ต่ำ แสดงว่าคอนเทนต์หรือโฆษณาของคุณอาจไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้เพียงพอ เมื่อรู้ปัญหา คุณสามารถปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ เช่น ปรับปรุงเนื้อหา โฆษณา หรือการออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
  2. เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการตลาด (Cost Efficiency) Conversion Rate ที่สูงแสดงถึงความสำเร็จในการเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นลูกค้า ซึ่งหมายความว่าเงินที่ลงทุนในโฆษณาหรือแคมเปญต่างๆ นั้นเกิดผลคุ้มค่า หาก Conversion Rate ต่ำ คุณอาจกำลังเสียเงินไปกับโฆษณาที่ไม่สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้ การมุ่งเน้นการเพิ่ม Conversion Rate จะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว เพราะจะทำให้การลงทุนทุกครั้งส่งผลดีขึ้น
  3. ทำให้ลูกค้าเดินทางสู่ขั้น Action ได้เร็วขึ้น Conversion Rate ที่ดีในแต่ละขั้นตอนของ Customer Journey ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น การออกแบบประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) ที่เหมาะสม เช่น การมี Call to Action (CTA) ที่ชัดเจนหรือการนำเสนอข้อมูลที่ตรงใจ จะช่วยให้ลูกค้าเดินทางจากขั้นการพิจารณาไปยังขั้นตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยไม่เสียเวลามาก
  4. สร้างความไว้วางใจและเพิ่มความภักดีของลูกค้า การปรับปรุง Conversion Rate ในขั้น Loyalty ช่วยสร้างฐานลูกค้าประจำที่มีความภักดี การที่ลูกค้าเดิมกลับมาซื้อซ้ำหรือแนะนำแบรนด์ของคุณให้กับผู้อื่นถือเป็นสัญญาณบวก เพราะลูกค้าที่ภักดีมักมีมูลค่าสูงกว่าและใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่ การสร้างความไว้วางใจด้วยบริการที่ดีจะช่วยให้การตลาดที่ลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนสูง

การปรับปรุง Conversion Rate ในแต่ละขั้นตอนของ Customer Journey

  1. Awareness (การรับรู้) ปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และตรวจสอบว่ามีการใช้ SEO หรือไม่ เพื่อให้ลูกค้าเห็นแบรนด์ของคุณได้ง่ายขึ้น
  2. Interest (ความสนใจ) ใช้เนื้อหาที่น่าสนใจและตอบโจทย์ปัญหาหรือความต้องการของลูกค้า รวมถึงการมี Landing Page ที่ออกแบบอย่างชัดเจน
  3. Consideration (การพิจารณา) เสนอข้อเสนอพิเศษหรือข้อมูลเพิ่มเติม เช่น รีวิวจากลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  4. Action (การกระทำ) ทำให้กระบวนการสั่งซื้อหรือการสมัครสมาชิกง่ายและสะดวก ตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์และช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัย
  5. Loyalty (ความภักดี) สร้างโปรแกรมสะสมคะแนนหรือเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ

Conversion Rate เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจว่าแต่ละขั้นตอนของ Customer Journey มีผลอย่างไรต่อความสำเร็จของการทำการตลาด โดยการวัด Conversion Rate ในแต่ละขั้นตอนจะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว และการมีเครื่องมือที่ดี ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถต่อยอด การบริการลูกค้าให้มีความพึงพอใจสูงสุด ด้วยกลยุทธ์วิธีที่สอดคล้องกับ Marketing Funnel โดยการใช้ Data ฐานข้อมูลของลูกค้าในระบบเข้ามาใช้สร้างเป็นแคมเปญเอาชนะใจลูกค้าตั้งแต่ทักเข้ามาหา และขยายฐานลูกค้าใหม่เพื่อให้ธุรกิจสร้างยอดดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบ Oho Chat ช่วยเพิ่ม Conversion Rate ของธุรกิจได้อย่างไร?

Oho Chat ระบบจัดการแชทบริการลูกค้าที่ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาศักยภาพของทีมการตลาด กลยุทธ์เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างมีระบบ ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าในยุคดิจิทัล แถมมีฟีเจอร์ที่แสนครบครันไม่ว่าจะเป็น รวมแชท (Omnichannel), แชทบอท (Chat Bot), เก็บข้อมูลลูกค้า (CRM), แดชบอร์ดวัดผล (Dashboard), คลังข้อมูล, ส่งแชทอัตโนมัติ (Auto assign) , คลังข้อมูล และบทบาทสมาชิก Sales Visibility แชทจะเยอะแค่ไหนก็เอาอยู่ ลดปัญหาระบบทีมภายใน ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ได้อย่างดีเยี่ยม

หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาระบบแชทที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ OhoChat คือคำตอบโดยสามารถเข้าสร้างธุรกิจของคุณ เพื่อทดลองใช้ฟรี 14 วัน พร้อมพบกับโปรโมชันพิเศษสุดคุ้มเพราะการเติบโตรอช้าไม่ได้ คลิก เลย

พร้อมแล้ว เริ่มใช้งานฟรี!
ทดลองใช้ฟรี คลิก!
เชื่อมต่อเพจของคุณฟรีทันที!