เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมพ่อแม่ของเราถึงมีความคิดที่ไม่ตรงกับเราในหลายๆ เรื่อง โดยสาเหตุของเรื่องนี้นั้นอาจจะตอบได้ด้วยเรื่อง Generation Gap หรือช่องว่างระหว่างวัยนั่นเอง ในโลกธุรกิจก็เช่นกัน หากเราทำธุรกิจโดยที่ไม่รู้ว่าลูกค้าในแต่ละวัยมี Insight หรือ Lifestyle แบบไหน ก็จะทำให้ลูกค้าไม่เลือกสินค้าหรือบริการของเรา เพราะรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่เหมาะกับชีวิตของพวกเขานั่นเอง
ดังนั้นการรู้จักและเข้าใจความต้องการของคนแต่ละเจน ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ สิ่งนี้จะทำให้เราทำการตลาดถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น เพราะถ้าเรารู้จักลูกค้าดีพอ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ ทำให้ง่ายที่จะผลิตสินค้าและบริการที่ดึงดูดใจผู้บริโภค ทำให้ขายได้มากขึ้น เกิดการบอกต่อและกลายเป็นลูกค้าผู้ภักดีของเราในที่สุด
ในบทความวันนี้ โอ้โหเลยอยากมาเล่าให้ฟัง ถึงเรื่องพฤติกรรมที่แตกต่างกันของกลุ่มทั้ง 5 Generations ว่ากลุ่มคนช่วงอายุนี้ให้คุณค่ากับสิ่งไหนบ้าง ไปดูกันเลย 👀
กลุ่ม Baby Boomer ในปัจจุบันเป็นกลุ่มคนสูงวัยในสังคม ซึ่งอาจจะยังเป็นผู้บริหารระดับสูง หรืออยู่ในช่วงเกษียน คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อที่สูง มีชีวิตที่แข็งแรงขึ้นกว่าสมัยก่อน
พฤติกรรมผู้บริโภค: กลุ่ม Baby boomer จะเป็นกลุ่มที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ครอบครัว โดยสินค้าที่เหมาะสมที่จะลงทุนกับคนกลุ่มนี้ คือ สินค้าเพื่อสุขภาพ ประกันสุขภาพและบริการท่องเที่ยว คนในยุค Baby boomer จะชอบ Established brand โดยเฉพาะพวกแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เก่าแก่ และเป็นที่รู้จัก
กลุ่ม Generation X เป็นกลุ่มที่นักการตลาดจำเป็นต้องให้ความสำคัญมากกับกลุ่มนี้เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงในสังคม เป็นกลุ่มที่ใช้เงินเป็น แต่อะไรที่จำเป็นก็จะยอมจ่ายโดยไม่ลังเล รายได้ส่วนใหญ่จะใช้กับครอบครัวเป็นหลัก
นอกจากนั้นกลุ่มคน Gen X นั้นเป็นกลุ่มที่โตมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีครบทุกยุคสมัย เห็นตั้งแต่การเกิดและดับของเทคโนโลยี ยกตัวอย่างเช่น ตอนเด็กๆ ใช้เทปในการฟังเพลง พอวัยรุ่นได้ใช้ CD แต่ตอนนี้หันมาใช้ Streaming platform
พฤติกรรมผู้บริโภค: กลุ่ม Gen X จะพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้า ต้องศึกษาข้อมูลและรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะรับสารทางออนไลน์โดยผ่านคนใกล้ชิดหรือสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีความ Loyalty ต่อแบรนด์สูง มีแบรนด์โปรดในใจ ดังนั้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า Gen X จะเป็นผลดีต่อแบรนด์มากๆ
ส่วนใหญ่กลุ่มคน Gen Y จะเป็นลูกของ Baby boomer ค่อนข้างมีการศึกษาที่ดี มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีอินเตอร์เน็ตใช้ตั้งแต่อายุยังน้อยมากๆ มีความเข้าใจและใช้ Social media ในการเปิดเผยตัวตนและเล่าเรื่องราวในโซเชียลมีเดีย กลุ่มคน Gen Y ต้องการประสบการณ์มากกว่าการได้เป็นเจ้าของ ในด้านการตลาดคนกลุ่มนี้ไม่ถูกชักจูงโดยโฆษณาเยอะ แต่ Influencer และเพื่อนมีอิทธิพลสำคัญในการซื้อสินค้าและบริการ ก่อนซื้อมักจะใช้เวลาในการ research กลุ่ม Gen Y เริ่มมีบทบาทในการทำงานที่สูงขึ้น Gen Y ถือเป็น Bridge generation ให้กับกลุ่มคนรุ่นอื่นๆ เพราะสามารถปรับตัวเข้ากับคนได้ทุกวัย
พฤติกรรมผู้บริโภค: กลุ่ม Gen Y เป็นกลุ่มที่ติด Social media ในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ เทรนด์ Food is a new Fashion มาแรงในกลุ่ม Gen Y นอกจากนั้นการเลือกซื้อสินค้าและบริการของคนกลุ่มนี้จะเน้นรูปแบบที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์และมีคุณค่าในสังคม โดยจะเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ เช่น Shopee Lazada และ Social commerce ดังนั้นการทำการตลาดสำหรับคนกลุ่มนี้ ต้องใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ มีการรีวิวจากผู้ใช้จริงและต้องมีความสะดวกสบายในการใช้งาน
กลุ่ม Generation Z กลุ่มนี้เกิดมาพร้อมการใช้ Internet ในแง่ของการตลาดไม่ชอบแบรนด์ที่โฆษณาเกินจริง ชอบแบรนด์ที่ดูสมจริงมี Engagement สูงๆ ชอบในเรื่อง Customer Relationship management กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ยินดีที่จะให้ข้อมูลกับแบรนด์ ชอบการที่แบรนด์มี Personalization and Customization นอกจากนั้น Gen Z เป็นกลุ่มที่คาดหวังกับรัฐบาลและใส่ใจเรื่องคุณภาพชีวิต โดย Gen Z เป็น Generation ที่สำคัญสำหรับต่อบริษัทต่างๆ เป็นกลุ่มที่ทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวในเรื่อง สินค้าและบริการเพราะ Product life cycle จะเปลี่ยนเร็วมากๆ
พฤติกรรมผู้บริโภค: กลุ่ม Gen Z จะใช้เวลาอยู่บน Social media เป็นส่วนใหญ่ ใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ พวกเขารู้จักการจับกลุ่มกันเป็นสังคมบนโลกออนไลน์และนิยมเสพสื่อออนไลน์มากกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นแบรนด์ควรมีการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ หรือบนเว็บไซต์ ที่มีข้อมูลละเอียด สามารถติดต่อเข้าถึงได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก พวกเขาคาดหวังในเรื่องคุณภาพ แบรนด์ และโปรโมชั่น ดังนั้นการทำการตลาดผ่าน Influencer หรือ KOL จะมีผลต่อการตัดสินใจของกลุ่ม Gen Z ได้ดี
กลุ่ม Gen Alpha นั้นเป็นลูกของ Generation Y เป็น Digital native ที่ความเป็นตัวตนของเขาถูกหล่อหลอมด้วยโลกดิจิทัล เกิดมาพร้อมกับเครื่อง Ipad โดยกลุ่ม Alpha นั้นได้รับการศึกษาดี โดนพ่อแม่ของกลุ่มนี้จะทุ่มเทกับการศึกษาและความเป็นอยู่ของลูกมาก
กลุ่ม Gen Alpha จะมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีเยอะ คุ้นเคยกับโลกของเทคโนโลยี ชอบเสพออนไลน์วิดีโอหรือเล่นเกมเป็นประจำ มองเห็นเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
พฤติกรรมผู้บริโภค: แม้ว่าตอนนี้กลุ่มคน Gen Alpha จะยังเด็กอยู่แต่ก็ถือว่ามีผลต่ออิทธิพลในการเลือกซื้อของพ่อแม่ รวมถึงการดึงดูดกับพวก Micro Influencer ในสิ่งที่เขาติดตาม โดยเฉพาะ Platform สำหรับกลุ่ม Alpha อย่าง Youtube และ Streaming ต่างๆจะมีบทบาทต่อการเลือกซื้อของพวกเขา
จะเห็นได้ว่าในแต่ละ Generations นั้นมีความแตกต่างกันมากๆ ในเรื่องพฤติกรรมและความชอบต่างๆ แต่มีสิ่งสำคัญที่ลูกค้าทุกเจนนั้นให้ความสำคัญนั่นก็คือ Custom Experience ลูกค้าทุกคนต่างก็คาดหวังการบริการที่ดีจากร้านค้าทั้งนั้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีช่องทางออนไลน์มากมาย ลูกค้าสามารถติดต่อร้านหรือแบรนด์ได้โดยตรงผ่านแชท ซึ่งคงไม่มีลูกค้า Generation ไหนที่ชอบการรอจากร้านค้า
ดังนั้น Oho chat "ระบบจัดการแชทบริการลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพทีมแอดมิน ครบจบในที่เดียว" ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยธุรกิจให้สร้าง Customer experience ที่ดีสำหรับลูกค้าในทุก Generations นั่นเอง
หากสนใจรายละเอียดว่า Oho chat สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร คลิกเข้าไปอ่านได้เลยที่ www.oho.chat สมัครได้เลย ทดลองใช้ฟรีทันที 14 วัน